วันอังคารที่ 4 พฤษภาคม พ.ศ. 2553

(ย้อนหลัง)วันนี้เมื่อวันวาน...1 พ.ค.

 
ย้อนหลังไปเมื่อ 4 ปีที่แล้ว (1 พ.ค. 49)

ต้นกำเนิดของครูบ้านนอกได้เริ่มขึ้นค่ะ

วันที่ 1 พ.ค. 49 คำสั่งสพท.ปจ.บรรจุและแต่งตั้งข้าราชการครู

ตอนนั้นครูน้อย ๆ คนนี้ได้รับคำสั่งให้ไปอยู่ที่โรงเรียนกระทุ่มแพ้ววิทยา

เอ่อ..

คือว่ามันอยู่ที่ไหนหว่า กระทุ่มแพ้ว

ย้อนหลังไปอีกเมื่อเดือน เมษา สสวท.มีหนังสือแจ้งให้ไปบรรจุที่พื้นที่ภูมิลำเนา

ไอ้เราก็มีสิทธิ์ได้เลือกโรงเรียนก่อนครูที่สอบบรรจุติดในปีนั้น

มีรายชื่อโรงเรียนที่ตำแหน่งว่างมาพรึบ !!

เอ่อ..แบบว่าใกล้ ๆ บ้านในอำเภอเมืองอะ มีมั้ยเนี่ย

ไม่มี !! คำตอบสุดท้าย

หรือมีก็เป็นโรงเรียนประถม เราก็ไม่เอาอะ ตรูเรียนฟิสิกส์มานะ

จะให้ไปสอนประถมเหรอ แล้วจะเรียนมาทำไมให้เหนื่อยน้อ

เราก็เลยจิ้มไปที่โรงเรียนนี้ ซึ่งเป็นอำเภอติดกัน

ตัวอำเภอห่างออกไป 20km (คาดว่าจะไม่ไกลมาก)

ตกลงว่าหนูเลือกโรงเรียนนี้ เขตออกคำสั่งบรรจุได้เลยนะคะ



วันที่ 1 พ.ค. 49 จึงได้เป็นครูอย่างเต็มตัว

แม้ว่า จะเรียกว่า ครูผู้ช่วย ซึ่งเป็นการทดลองปฏิบัติราชการก็เถอะ

วันนึงก็เลยขับรถไปดูโรงเรียน

แม่เจ้า !! 20 กว่าโล ... ไกลมากมาย (นี่คือทางลัดแล้ว)

กันดารมากมาย

โรงเรียนอะไรฮะเนี่ย มีเด็กนักเรียนมาเรียนจริง ๆ อ๊ะป่าว

เห็นครั้งแรก..น้ำตาแอบซึมนิดๆ

เอิ่ม..มม มีบ้านพักครูด้วย ครูที่นี่จะเป็นยังไงน้อ

มีข้าวปลาอาหารเหลือกินมั่งมั้ย

เซเว่นไม่มี.. โถ ชีวิต

แต่ก็ช่วยไม่ได้...จิ้มไปแล้วอะ


 
การมาทำงานที่โรงเรียนนี้เหรอ รถเมล์ไม่มีถึงหรอก

จะมีก็ต้องนั่งไปพนมก่อน 30 กว่าโล แล้วต่อสองแถวอีก 17 โล นั่นแหละถึงโรงเรียน

ช้านไม่ต้องตื่นตีสองเหรอเนี่ย...รถเมล์ก็ไม่อยากจะคิดถึง หวานเย็นแน่ ๆ

ก็เลี่ยงไม่ได้ว่าต้องขับรถไปกลับ และนอนที่บ้านพักในบางวัน

การทำงานครั้งแรกในชีวิต ที่ผ่านมา 4 ปีไม่ได้มีความรู้สึกว่าเหนื่อยมากมาย

ครูประเทศไหนวะ ออกจากโรงเรียนสองสามทุ่ม

วันไหนมีประชุมก็สามทุ่มมั่ง สี่ทุ่มมั่ง

ครูประเทศไหนวะ ทั้งสอน ทั้งงานนอกอีกมากมาย

คือบางคนอาจจะคิดว่า โรงเรียนเล็ก ๆ มันมีงานต้องทำมากมายเชียวเหรอ

จะสบายก็ตรงที่สอนเด็กน้อย ๆ ไม่ต้องแหกปากมาก ไม่ต้องเครียดกับนักเรียนมาก

(แรก ๆ ต้องหิ้วไมค์ หิ้วลำโพง เพราะอิเดี๊ยนเสียงเบาไง หลังๆ แหกปากเข้าไป)

แต่งานอื่นน่ะเซ่ มันจะอะไรนักหนา คือถึงจะเป็นโรงเรียนเล็ก แต่งานมันก็ต้องมีตามมาตรฐาน รร.มัธยม เค้าแหละ

ส่วนเราแล้ว ก็รับวิชาการ ด้วยความที่ว่า ท่านผอ (คนแรกของเรา) เห็นว่าเราคงเหมาะกับงานนี้มากกว่าพวกทั่วไป งบประมาณ อะไรประมาณนั้น

บางทีก็มีเหนื่อยนะ แต่ก็สนุกค่ะ รู้สึกว่าตัวเองอยู่เฉย ๆ ไม่ได้ มันจะเซ็ง

แต่ที่มีเบื่อบ้างก็ตอนแรกค่ะ มีบางเสียงแบบแทะ ๆ เรานิดหน่อยที่ว่า

บรรจุมาพร้อมกัน ทำไมคนอื่นได้ 7,630 แต่เราได้ 8,360

(อ้าว..อยากได้เยอะก็ไปเรียนเอาใหม่นะคะ)

แล้วพอ 2 ปี ได้ตำแหน่งครู คนอื่นเงินเดือนก็ไม่เลื่อน แต่อินี่ ดั๊นได้เลื่อนเป็น 11,930

เอาเข้าไป คือไอ้ตรงนี้มีหลายกระแสค่ะ

อย่างใน webboard ต่างๆ ก็โดนเยอะเหมือนกัน

ว่า เด็กทุน สควค ทำไมบรรจุได้เงินเดือนเยอะกว่า

เลื่อน คศ.1 เงินเดือนก็เพิ่มอะไรแบบนั้น

แต่ช่างเถอะค่ะ มันเป็นข้อตกลงของ สสวท เค้าค่ะ

ถ้ารู้ว่าตอนเรียน ป.ตรี แอนด์ ป.บัณฑิต ก็ได้เงินเดือนใช้ ได้เงินค่าซื้อหนังสือ ทำ project จะโดนถล่มอีกเยอะมั้ยเนี่ย เอิ๊กๆๆๆ

แต่ก็ผ่านมาด้วยดี ทำงาน 4 ปีไม่มีขั้นพิเศษสุด ๆ 2 ขั้น

(ค่อยๆ กิน 1.5 ขั้นไปเนอะเรา)

ก็ไม่ได้เฮิร์ทอะไรค่ะ ได้ก็ได้ ไม่ได้ก็ไม่ได้ ไม่ได้ซีเรียสอะไร



ตอนนี้ 4 ปีเต็มค่ะ

สนุกกับงาน เหนื่อยบ้าง ท้อบ้าง ก็เป็นประสบการณ์ค่ะ

จะคิดว่า...ทุกอย่างล้วนฝึกฝนเรา ให้เราอดทนค่ะ

เพราะชีวิตบนเส้นทางนี้ยังอีกยาวไกลเนอะ

“ทำงานเพื่องาน .... ทำงานเพื่อนักเรียน .... ทำงานเพื่อชาติ”

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น